เราตั้งใจทำ “ เพื่อนบ้าน อารีย์” ให้กลายเป็นงานหลักของเราให้ได้ ซึ่งมันก็ไม่ต่างอะไรจากการบอกว่า “ฉันว่างงาน” นั่นแหละ สถานะว่างงานในช่วงโควิดและการบริหารงานแบบนี้ก็ไม่ต่างอะไรจากหุบเหวแห่งความสิ้นหวัง แต่นั่นก็หมายความว่าเรามีเวลาล้นเหลือที่จะทำสิ่งที่เรียกว่าการ “ เดิน เล่น”
เดินเฉย ๆ เดินไปเรื่อย ๆ เดินเพื่อไม่ให้ตัวเองเฉาตาย เดินไกลเท่าที่วันนั้นอยากเดิน มันกลายเป็นพิธีกรรมอย่างหนึ่ง ที่ช่วยให้พยุงจิตใจ ท่ามกลางข่าวร้ายมากมายที่พุ่งเข้ามากระทบเราทุกวัน ระบายความคับแค้น ความเศร้า ความสิ้นหวัง ออกไปทางเหงื่อหน่อยก็ดี
ใส่แมสก์ เลี่ยงเข้าใกล้คน ล้างมือ ไม่สัมผัสสิ่งใด เรียกได้ว่าถ้าฉันมีชุด PPE ก็คงใส่ไปแล้ว ฉันมีเพื่อนบ้านรู้จักใหม่คนหนึ่งที่ชอบเดินเล่นด้วยกัน ทุกวันนี้ฉันยังไม่เคยเห็นอีกครึ่งหนึ่งของหน้าเขาเลย
เราเดินจนเริ่มสังเกตคนหน้าเดิมบ่อยขึ้น เขาอาจทำสิ่งเดียวกันอยู่ บางคนที่ลำบากกว่า เห็นร้านอาหารเปิดใหม่ บางร้านปิดกิจการ เห็นท้องฟ้าเปลี่ยนสี เห็นบ้านถูกทุบ เห็นตึกถูกสร้าง มันทำให้เรารู้สึกว่าเราอยู่ตรงนั้นจริง ๆ การรู้สึกตัวเองว่าเราอยู่ตรงไหนมันทำให้เรารู้สึกสงบดีนะ
แต่มันจะมีใครบ้างทำได้ล่ะ ใครมันจะมีเวลามาเดินเล่นบ่ายแก่ ๆ วันทำงาน แต่เพื่อนบ้านที่รัก เราอาจจะไม่ได้มีบ้านอยู่ริมคลองในอัมสเตอร์ดัมแต่ แต่เชื่อเถอะ ว่าการได้ “เดินเล่นเฉย ๆ” นี่คืออภิสิทธิ์แล้วนะ โดยเฉพาะหลังจากที่เราไปสัมภาษณ์พี่ยามหลายคนที่งานของเขาคือการนั่งอยู่ที่เดิมวัน 12 ชั่วโมง 7 วันต่อสัปดาห์
นั่นคือเหตุผลที่สวนสาธารณะจำเป็นต้องเปิด
เพื่อให้คนเดินหนีออกจากความซังกะตาย ถ้าเธอทำได้ ไมว่าจะ เวิร์กฟอร์มโฮม เสาร์-อาทิตย์ หรืออะไรก็ตาม ออกมาเดินกันเถอะ ชาร์จพลัง เป็นส่วนหนึ่งกับที่ที่เราอยู่ ใส่หน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อย ๆ เดินห่าง ๆ คน แต่อย่ายอมให้โควิดมันทำร้ายเราด้วยการต้องอุดอู้อยู่ในห้องแคบ ๆ ไปได้มากกว่านี้เลย
รัก
at Soi Ari
Comments are closed.